การขี่มอเตอร์ไซค์เป็นหนึ่งในการเดินทางที่สะดวก คล่องตัวและรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะขับขี่นอกเมืองหรือในเมืองที่มีรถยนต์แออัดอย่างกรุงเทพมหานคร ก็สามารถหลบหลีกรถติดได้ดีเลยทีเดียว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามอเตอร์ไซค์หรือจักรยานยนต์ ถือเป็นพาหนะขับขี่ที่เสี่ยงเกิดอันตรายมากที่สุด อย่างวลีที่ว่า “เนื้อหุ้มเหล็ก”
9 เทคนิคขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างปลอดภัย เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนี้
1. มีสติทุกขณะ
ไม่ว่าคุณจะขับรถยนต์หรือขับขี่จักรยานยนต์ สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้เลยคือ “สติ” ควรจดจ่ออยู่กับเส้นทาง สังเกตสภาพแวดล้อม สภาพถนนรอบตัวว่ามีสิ่งกีดขวาง มีหลุม มีเนินหรือไม่ รวมถึงสังเกตรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์คันอื่น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุขับมอเตอร์ไซค์ชนหรือผู้อื่นขับมาชนเรา
และควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ขาดสติดังนี้
ง่วงนอนหรืออ่อนเพลียไม่ควรขับขี่ สำหรับผู้ที่เดินทางไกล ให้แวะจอดที่พักรถหรือปั๊มน้ำมันเสียก่อน
การดื่มแอลกอฮอล์ของมึนเมา นอกจากจะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังเสี่ยงโดนเจ้าหน้าที่เรียกตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ หากเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โทษทางกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่คุยโทรศัพท์ระหว่างขับขี่ แม้ว่าจะมีหูฟัง Small Talk หรือไม่มีก็ตาม เพราะจะทำให้เราไม่มีสติกับเส้นทางที่อยู่ตรงหน้า หากเกิดอุบัติอะไรขึ้นมาจะไม่สามารถตอบสนองหรือหักหลบได้ทันที
2. ไม่อยู่ในจุดอับสายตา
อีกสิ่งที่สำคัญคือ ไม่อยู่ในจุดอับสายตา ควรวางตำแหน่งตนเองให้อยู่ในจุดที่รถคันอื่นเห็นเราได้อย่างชัดเจน ด้วยขนาดของรถจักรยานยนต์เมื่อเทียบกับรถประเภทอื่นๆ แล้ว อาจจะยากต่อการมองเห็น ดังนั้นไม่ควรขับขนาบข้างโดยเด็ดขาด ควรขับในพื้นที่ปลอดภัย ไม่ขับจี้มากไปเผื่อคันข้างหน้าเบรคหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน จะทำให้เกิดอุบัติเหตุขับมอเตอร์ไซค์ชนท้ายได้
3. ไม่เบียดรถคันอื่น
ขึ้นชื่อว่ารถมอเตอร์ไซค์ พาหนะที่สามารถขับขี่ในพื้นที่เล็กๆ ได้ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับพฤติกรรมการเบียด การซอกแซก ซึ่งเป็นสิ่งอันตรายที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้เลยว่ารถทั้งสองด้านที่ขนาบข้างเราอยู่นั้นจะเบียดเข้ามาเมื่อไหร่
4. คาดการณ์อนาคต
เวลาอยู่บนท้องถนนควรคาดการณ์สถานการณ์ให้ออก ความเป็นไปได้ที่จะเกิดอะไรขึ้น โดยใช้สัญชาตญาณของคุณเอง เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจะได้รับมือได้อย่างท่วงทัน อาจจะบีบแตรส่งสัญญาณเตือน หรือ หยุดรอดูความปลอดภัย เป็นต้น
5. เลี้ยวอย่างระวัง
หากคุณจำเป็นต้องเลี้ยว อย่าเพิ่งรีบอยากจะเลี้ยวก็เลี้ยวเลยเพราะรถด้านหลังอาจไม่ทันตั้งตัวชนคุณได้ หรือบางทีกะระยะเลี้ยวผิดจังหวะ อาจจะไปกินเลนคนอื่นหรือทำให้มอเตอร์ไซค์ของคุณขูดกับฟุตบาท เพราะฉะนั้นควรดูให้ดีก่อนเลี้ยว
6. ระวังทางแยก
“ทางแยก” ทางอันตรายสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
ในกรณีที่อยู่หน้าสุดไม่ควรพุ่งตัวออกไปทันทีที่ไฟเขียว เพราะถ้าโชคร้ายอาจมีรถฝ่าไฟแดงออกมา ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ไม่ควรแทรกรถที่กำลังเลี้ยวอยู่ เนื่องจากเป็นจุดบอดของผู้ขับรถยนต์
ไม่ควรหลบอยู่หลังหรือชิดรถยนต์เกินไป จะทำให้รถฝั่งตรงข้ามมองเราไม่เห็น
หากต้องต่อท้ายจริงๆ ให้ขยับหน้าเฉียงออกจากท้ายรถยนต์ ให้ฝั่งตรงข้ามพอจะเห็นเรานั่นเอง
7. เคารพกฎจารจร
เคารพกฎจารจรและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งสัญญาณไฟจารจร ไม่ขับรถย้อนศร หรือขับเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการขับขี่มอเตอร์ไซต์ผาดโผนซึ่งเป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น
8. สวมหมวกกันน็อค
เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นควรสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งที่ขับขี่หรือแม้แต่โดยสารมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ควรสวมเช่นเดียวกัน เพราะบริเวณศีรษะเป็นจุดสำคัญหากเกิดความเสียหายอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
9. ตรวจสอบสภาพมอเตอร์ไซค์สม่ำเสมอ
หมั่นตรวจสอบสภาพรถมอเตอร์ไซค์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ นำรถเข้าศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน ยิ่งใช้งานเป็นประจำแน่นอนว่าต้องมีสึกหรอกันบ้าง หรือมอเตอร์ไซค์ที่มีอายุการใช้งาน 5 ปี จะต้องนำรถไปตรวจสภาพที่ สถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกแล้ว ตรวจสอบว่ารถมอเตอร์ไซค์มีสภาพแข็งแรงตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนน
และนี่คือ 9 เทคนิค ขี่มอเตอร์ไซค์อย่างไรให้ปลอดภัยและลดอุบัติเหตุ รวมถึงมารยาทในการขับขี่ ไม่ว่าคุณจะขับขี่รถยนต์หรือขี่มอเตอร์ไซค์ หากเคารพซึ่งกันและกัน มีสติอยู่ในความไม่ประมาท เชื่อว่าท้องถนนจะมีความเป็นระเบียบและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าคุณจะมีพรบ.มอเตอร์ไซค์หรือประกันจักรยานยนต์คุ้มครองแต่ก็ไม่ควรเอาชีวิตฝากไว้กับความเสี่ยงบนท้องถนน
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.thaipat.co.th