คุณเคยสังเกตเบรครถกันบ้างไหมว่าก่อนที่มันจะหมด จะมีอาการบ่งบอกหรือจะสังเกตได้อย่างไรบ้าง?
1. สังเกตง่ายๆ ด้วยตาเปล่า
สังเกตได้ง่ายจริงๆ นะ เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตา เพราะผ้าเบรคด้านหน้าไม่ได้ซ่อนจนมิด เราสามารถมองเห็นความหนา บาง ของผ้าเบรคที่เราใช้งานอยู่ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ หากเราใช้งานทุกวัน หรือออกทริปสำหรับรถคันใหญ่ๆ ยิ่งไม่ควรมองข้าม (เพราะล้มหรือลื่นทีก็หนักกว่าชาวบ้านเขา) ควรเช็คความพร้อมให้ดี ก้มลงดูสักนิด มองไม่เห็นก็ใช้ไฟฉายส่องลงไปได้ ถ้าเห็นว่าบางเป็นแผ่นไร้การซึมซับก็ควรจะเปลี่ยน เสียเวลาไม่ได้มากมายเท่าไหร่ แต่ก็เพื่อความความปลอดภัยของเรา
2. เสียงเอี๊ยดๆ ดังลั่นไปยันปากซอย
ถ้ามีอาการแบบนี้นั่นแหละค่ะไม่ต้องลังเล อาการมาแบบเกือบจะสายไป เบรคทีจี๊ดที ทั้งคนขับคนซ้อนท้ายก็สะดุ้งกันที อาการแบบนี้ต้องได้รับการเยียวยา ง่ายๆ ก็เปลี่ยนมันซะ!
3. หากขับแล้วไม่ได้ยินเสียง ลองดับเครื่องแล้วลองเบรคดูสิจ๊ะ
ถ้าขับๆ แล้วเบรค รู้สึกไม่กินมือ กินเท้า แต่ลองเบรคย้ำๆ เสียงเล็กเสียงน้อยไม่ค่อยจะได้ยิน ลองดับเครื่องแล้วเข็นค่ะ แล้วเบรคย้ำๆ หรือลองคร่อม ค่อยๆ ย่ำเท้าดู อาจจะได้ยินเสียงครืดคราด หรือเอี๊ยดๆ ซ่อนเร้นอยู่
4. เช็คจากกระปุกน้ำมันเบรค
อันนี้ก็ดูได้ง่ายๆ เลย รถมอเตอร์ไซค์ทุกคันจะมีกระปุกน้ำมันเบรคที่อยู่ใต้ด้ามกระจก ตรงตำแหน่งคันเร่งจะมีช่องกลมๆ ที่เป็นตาแมวไว้คอยสังเกตน้ำสีเหลืองว่ามีปริมาณเหลือมากเหลือน้อย เพราะถ้าปริมาณน้ำมันเบรคที่ลดลงนั้นเกิดจากเนื้อผ้าเบรคที่ใกล้หมดทำให้มีการใช้ปริมาณน้ำมันเบรคเข้าไปแทนที่มากขึ้น อาจจะต้องสังเกตเป็นระยะ ซึ่งหากใครไม่ถนัดก้มๆ เงยๆ ตามข้อแรก วิธีนี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ถ้าเห็นว่าน้ำมันเบรคลดลงไปแล้วก็อย่าลืมเติมน้ำมันเบรคเพิ่มเข้าไปด้วยนะจ๊ะ
5. สัมผัสจากจิตใต้สำนึก
ที่พูดมาเช่นนี้เพราะส่วนใหญ่หากใช้รถเป็นประจำทุกๆ วัน ย่อมรู้ดีถึงประสิทธิภาพในอุปกรณ์การใช้งานรถของคุณ ว่ามันถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้วหรือยัง หากถึงขั้นบีบจนสุด หรือเหยียบกันจนสุดจะลากถึงพื้นอยู่แล้ว แต่ก็ยังดื้อดึง เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน ขออีกนิด… จนชีวิตคุณต้องไปแขวนอยู่บนเส้นด้าย ก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน หรือหากเป็นคนชอบจด ก็บันทึกไว้ ใช้ระยะทางเป็นตัวกำหนดไปเลยก็ได้ ตั้งเป้าเปลี่ยนทุกๆ 4,000 – 5,000 กม. ง่ายๆ สบายใจดี…..
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.checkraka.com