เทคนิคขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำให้ปลอดภัย
ต้องทำอย่างไร? หากจำเป็นต้องขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำ 1. เช็กระดับน้ำก่อนขับมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำ อันดับแรกคือการตรวจเช็กเส้นทางที่จะขับผ่านว่ามีระดับน้ำสูงแค่ไหน และควรประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ซึ่งหากเป็นไปได้ควรใช้เส้นทางที่มีน้ำท่วมขังน้อยที่สุด เนื่องจากการขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านระดับน้ำที่มีความสูงเกิน 1 ฟุต จากตัวพื้นถนน จะส่งผลให้น้ำเข้าไปสร้างความเสียหายกับคาบูเรเตอร์ของมอเตอร์ไซค์ และตัวกรองอากาศได้ ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้มอเตอร์ไซค์ดับกลางคัน และอาจทำให้รถต้องแช่น้ำเป็นระยะเวลานาน จนทำให้เครื่องยนต์หรือระบบไฟฟ้าของรถพังได้ 2. รถดับ ห้ามสตาร์ททันที ระหว่างที่ขับมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำนานๆ แล้วเกิดปัญหารถดับกลางทาง ห้ามสตาร์ทรถทันทีหลังจากรถดับ ควรตั้งสติและเข็นรถมอเตอร์ไซค์ออกไปในพื้นที่แห้งหรือให้พ้นทางที่น้ำท่วมก่อน จากนั้นเช็กท่อไอเสียว่ามีน้ำเข้าหรือไม่ หากพบว่ามีน้ำเข้าให้รีบระบายน้ำออกก่อนแล้วค่อยสตาร์ทรถอีกครั้ง ซึ่งหากเป็นรถมอเตอร์ไซค์ประเภทออโตเมติก แนะนำว่าให้สตาร์ทด้วยเท้า เมื่อเครื่องติดแล้วให้เร่งเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องยนต์ให้มีความร้อนมากพอและกลับมาทำงานปกติจึงค่อยขับต่อไป 3. ไม่ควรขับรถด้วยความเร็ว ฝนที่ตกลงมาไม่ว่าจะหนักหรือเบาก็สามารถทำให้ถนนลื่น เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลและเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งตัวเราและผู้ร่วมทาง โดยเฉพาะการขับมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำที่ท่วมขังอยู่บนถนน ยิ่งต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยจึงไม่ควรขับรถด้วยความเร็วสูง แต่ควรใช้ความเร็วในระดับที่พอดี เพื่อให้สังเกตเห็นพื้นถนนได้ชัดเจน เพราะขณะขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำคุณอาจเจอทั้งหลุม โคลน เนินหลังเต่าหรือพื้นถนนที่ไม่เรียบ หากวิ่งมาด้วยความเร็วสูงอาจทำให้รถเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ 4. เบรกรถเป็นระยะๆ สำหรับการขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านขณะที่มีน้ำท่วมขังบนพื้นถนน ควรที่จะเบรกรถโดยย้ำเบรกถี่ๆ เป็นระยะ เพราะผ้าเบรกนั้นสามารถดูดซับน้ำได้ หากขับมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำไปเรื่อยๆ อาจทำให้เบรกได้รับความเสียหายและขัดข้อง และเบรกรถไม่อยู่จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเบรกรถเป็นระยะๆ…